ในทุกองค์กรใหญ่จำเป็นต้องมีผู้นำที่เข้มแข็งในทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับผู้บริหารระดับกลาง (Mid-Level) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร เพราะผู้บริหารระดับกลาง (Mid-Level) คือกลุ่มผู้บริหารที่อยู่ระหว่างผู้บริหารระดับสูงและหัวหน้างานระดับต้น มีหน้าที่หลักในการนำนโยบายและกลยุทธ์จากผู้บริหารระดับสูงไปปฏิบัติ พร้อมทั้งบริหารจัดการทีมงานให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดังนั้น ผู้บริหารระดับกลาง จึงเป็นตัวเชื่อมที่สำคัญระหว่างผู้กำหนดนโยบายและผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งการมีภาวะผู้นำที่ดีจะช่วยให้สามารถขับเคลื่อนทีมและองค์กรให้ไปสู่เป้าหมายได้อย่างราบรื่น
ที่ผ่านมา Q Hunter เราทำงานอย่างใกล้ชิดกับฝ่าย HR และผู้บริหารใน “การสรรหาบุคลากร” และคัดเลือกบุคลากรคุณภาพ เราจึงเข้าใจถึงความท้าทายและความสำคัญของการพัฒนาภาวะผู้นำในผู้บริหารระดับกลาง วันนี้เราจึงอยากนำเสนอแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำที่จะช่วยยกระดับศักยภาพของผู้บริหารระดับกลางในองค์กร
1. สร้างความตระหนักรู้ในบทบาทและความสำคัญของภาวะผู้นำ
การสร้างความตระหนักรู้ให้ผู้บริหารระดับกลางเข้าใจถึงบทบาทและความสำคัญของภาวะผู้นำ “Recruitment Company Thailand” อย่าง Q Hunter มักแนะนำให้จัดอบรมหรือ Workshop เพื่อให้ผู้บริหารได้เรียนรู้แนวคิด ทฤษฎี และทักษะภาวะผู้นำที่จำเป็น การเข้าใจถึงความสำคัญของภาวะผู้นำจะทำให้ผู้บริหารมีแรงจูงใจในการพัฒนาตนเองและนำภาวะผู้นำไปใช้ในการบริหารจัดการได้ดียิ่งขึ้น
2. พัฒนาทักษะการสื่อสารและการจูงใจทีมงาน
ผู้บริหารระดับกลางจำเป็นต้องสามารถสื่อสารนโยบาย เป้าหมาย และความคาดหวังได้อย่างชัดเจน ทั้งกับทีมงานและผู้บริหารระดับสูง นอกจากนี้ ทักษะการสร้างแรงจูงใจก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ผู้นำที่ดีต้องสามารถจูงใจและกระตุ้นให้ทีมงานทุ่มเทในการทำงาน การพัฒนาทักษะเหล่านี้สามารถทำได้ผ่านการอบรม การเรียนรู้จากเคสต่างๆ หรือการฝึก Coaching
3. เสริมสร้างการคิดเชิงกลยุทธ์และการตัดสินใจ
ผู้บริหารระดับกลางจำเป็นต้องมีความสามารถในการคิดเชิงกลยุทธ์ วิเคราะห์สถานการณ์ และตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม “บริษัทจัดหางาน” หรือ “Headhunter Thailand” ต่างให้ความสำคัญกับทักษะเหล่านี้ใน “การสรรหาบุคลากร” ระดับผู้บริหาร การพัฒนาการคิดเชิงกลยุทธ์อาจทำได้ผ่านการระดมสมอง การวิเคราะห์กรณีศึกษา หรือการมอบหมายงานหรือ Project ที่ท้าทาย ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริหารได้ฝึกฝนการคิดและตัดสินใจเชิงกลยุทธ์มากขึ้น
4. ส่งเสริมการสร้างความสัมพันธ์และการทำงานร่วมกับผู้อื่น
ผู้บริหารระดับกลางต้องสามารถสื่อสารและทำงานข้ามสายงานได้อย่างราบรื่น ทั้งกับทีมงานของตนเอง ทีมอื่นๆ หรือแม้แต่กับลูกค้าและพาร์ทเนอร์ องค์กรควรส่งเสริมให้เกิดการทำงานร่วมกันผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น โปรเจ็กต์ข้ามสายงาน งาน Workshop ที่เน้นการแก้ปัญหาร่วมกันเป็นทีม หรือแม้แต่กิจกรรมสันทนาการเพื่อสร้างความสัมพันธ์ในทีม
5. พัฒนาความฉลาดทางอารมณ์และการบริหารจัดการตนเอง
ความฉลาดทางอารมณ์หรือ EQ จึงเป็นสิ่งจำเป็น ผู้บริหารระดับกลางต้องรู้จักสังเกตอารมณ์ของตัวเองและผู้อื่น บริหารจัดการความเครียด และปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ได้ การพัฒนา EQ อาจทำได้ผ่านการอบรมด้านจิตวิทยา การทำ Personality Test หรือการ Feedback จากเพื่อนร่วมงานและหัวหน้า
6. ปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรมในการเป็นผู้นำ
องค์กรควรมีการกำหนดแนวทางและมาตรฐานจริยธรรมสำหรับผู้บริหารอย่างชัดเจน พร้อมทั้งสื่อสารและปลูกฝังจริยธรรมเหล่านี้ผ่านการ Lead by Example การอบรมเชิงปฏิบัติการ หรือการสอดแทรกเรื่องจริยธรรมในกระบวนการตัดสินใจต่างๆ การมีผู้นำที่เป็นแบบอย่างที่ดีด้านจริยธรรมจะช่วยสร้างวัฒนธรรมองค์กรเชิงบวกได้
7. ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
การพัฒนาภาวะผู้นำไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นได้ในชั่วข้ามคืน แต่เป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความมุ่งมั่นในการเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารระดับกลางควรมีแผนการพัฒนาตนเองทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยอาจเข้าร่วมการอบรม สัมมนา งานประชุมวิชาการ หรือโปรแกรมพัฒนาภาวะผู้นำ นอกจากนี้การมี Mentor หรือ Coach ที่ดีก็จะช่วยให้ผู้บริหารได้เรียนรู้และพัฒนาตนเองได้มากขึ้น
การพัฒนาภาวะผู้นำให้ผู้บริหารระดับกลางเป็นสิ่งสำคัญที่ HR ไม่ควรมองข้าม เพราะศักยภาพของผู้นำระดับกลางจะส่งผลต่อผลการดำเนินงานขององค์กรโดยรวม หาก HR หรือผู้บริหาร ท่านใดกำลังต้องการ “การสรรหาบุคลากร” ระดับผู้บริหารระดับกลาง “บริษัทจัดหางาน” อย่าง Q Hunter พร้อมให้คำปรึกษาทุกท่านค่ะ
